วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

ดอยธง จุดชมวิวแห่งใหม่ของเมืองปาย


ดอยธง ชื่อนี้ได้ยินแล้วก็ยังงงๆว่าอยู่ที่ไหนของประเทศไทย  ยิ่งมีคนบอกว่านี่คือแหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดของเมืองปายก็แทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าฟังมาถูกต้องหรือเปล่าจนเดินทางมาถึงเมืองปายถึงจะกระจ่างชัดว่าใช่จริงๆ พี่ต้นอดีตบก.ข่าวส่วนภูมิภาคของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งหันเหชีวิตมาอยู่เมืองปายพร้อมขนุน อดีตน้องฝึกงานสมัยที่ผมทำหนังสือแค้มปิ้งท่องเที่ยวบอกกับผมถึงเรื่องราวของดอยธงและดอยเมี่ยงแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่คนปายส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก
ดอยธงพิกัดและข้อมูลยังไม่แน่ชัดแต่ที่รู้ๆกันคือดอยเมี่ยงนั้นอยู่แถวหมู่บ้านแพมบกก่อนเข้าตัวเมืองปายเส้นทางสู่บ้านแพมบกรถเก๋งสามารถเข้าไปได้อย่างไม่ยากเย็นแต่นับจากบ้านแพมบกไปแล้วจะต้องใช้รถขับเคบ่อนสี่ล้อเท่านั้นและจะต้องเป็นเจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ ดอยกิ่วลม เป็นคนพาขึ้นไปเพราะเส้นทางนั้นแคบมากๆใครไม่ชินทางโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงมาก เมื่อได้ขึ้นมาข้างบนขณะรถเคลื่อนผ่านทางที่แสนจะคับแคบพอดีตัวรถมีหุบเหวเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆช่างเสียวจริงๆ(ผมนั่งอยู่ข้างเหวพอดี)ระยะทางจากบ้านแพมบกไปไม่ไกลราว 6-7 กิโลเมตรก็จะถึงที่ทำการโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ ดอยกิ่วลม หรือที่บางคนรู้จักว่าดอยเมี่ยงนั่นเอง
ดอยเมี่ยงอยู่ในระดับความสูง1,624 เมตรจากระดับน้ำทะเลเป็นจุดชมวิวที่ได้รับการประชาสัมพันธ์ไปเมื่อปีที่แล้วจากจุดนี้เราสามารถมองเห็นเมืองปาย สะพานข้ามแม่น้ำปาย(แบบลางๆ)เรียกว่าวิวทิวทัศน์สวยงามทีเดียวบางท่านเห็นแค่นี้ก็กรี๊ดแล้วหยุดพักอย่างสบายใจ ที่นี่มีบ้านพักให้เราได้ชมวิวแบบสบายๆทั้งหมด 4 หลังในราคา 500 บาทต่อคืน แล้วดอยธงล่ะอยู่ไหนกัน?
"ดอยธงอยู่เหนือดอยเมี่ยงขึ้นไปอีกราว 3 กิโลเมตร" นั่นเป็นคำกล่าวของพี่เพชร เจ้าหน้าที่ที่พาผมขึ้นมา  3 กิโลเมตรที่ว่านี้คุณภาพล้วนๆ ถนนสายนี้เพิ่ใตัดมาเมื่อปลายปีที่แล้วใช้คนขุดถนนกันขึ้นมาตลอดทาง ถนนแคบอันตรายตอนนี้มีเพียงพี่เพชรเท่านั้นที่ขับขึ้นไปได้เมื่อผมได้มีโอกาสสัมผัสในอีกไม่กี่ชั่วอึดใจก็ยอมรับล่ะครับว่าเสียวกว่าตอนขึ้นมาถึงดอยเมี่ยงอีก ถนนสายนี้พิสูจน์แล้วว่านอกจากรถสมรรถนะดีแล้วฝีมือคนขับต้องเยี่ยมด้วยเพราะเป็นถนนสายที่พลาดไม่ได้เลยแม้สักครั้งเพราะถ้าพลาดต้องไปเก็บซากกันในหุบเหวเลยทีเดียว บนยอดดอยธงนั้นมีเจดีย์ที่บรรจุพระธาตุไว้เป็นสัญลักษณ์เพื่อให้ชาวบ้านและชาวเขาได้กราบสักการะกัน พี่เพชรบอกว่า ณ จุดนี้เคยมีเจดีย์เก่าที่ชาวบ้าน-ชาวเขาสร้างขึ้นที่ยอดดอยธงจึงเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในช่วงที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วมักจะมีชาวบ้าน-ชาวเขาต่างวขึ้นมากราบสักการะเจดีย์องค์เดิมเป็นประจำทุกปี ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวควรให้ความเคารพด้วยเช่นกันจากจุดจอดรถเราจะต้องเดินขึ้นเข้าสูงชันไปอีกราว 400 เมตรจึงจะมาถึงยอดดอยธง ที่มีความสูงถึง 1,895 เมตร จากระดับน้ำทะเล

 อากาศยามเช้าท้องฟ้าสดใสไร้เงาเมฆหมอกความงดงามเหนือยอดดอยธงนั้นยิ่งใหญ่อลังการในแบบที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เจอที่เมืองปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอนแห่งนี้ บนจุดนี้เราสามารถมองเห็นทัศนียภาพในแบบ 360 องศา มีภูเขามากมายให้เราได้ชม กลุ่มทะเลหมอกแถวปางมะผ้าก็สามารถเห็นได้  อากาศหนาวเย็นจับใจวันนี้เรายังไม่เห็นทะเลหมอก พี่เพชรบอกว่าช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาวที่มีความชื้นสะสมสูงจะเห็นทะเลหมอกได้รอบตัว วันนี้ได้เพียงแค่สายหมอกพัดผ่านก็ดีใจมากแล้วครับ





ใครที่อยากสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเมืองปายลองแวะมาเที่ยวดอยเมี่ยง - ดอยธงได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี บนยอดดอยเมี่ยงมีที่พักคืนละ 500 บาท มีอาหารตามสั่งด้วยนะครับ
สำหรับการเดินทาง จะต้องมาจอดรถยนต์ส่วนตัวที่บ้านแพมบก GPS19.325277 ,98.392776) บ้านแพมบกอยู่ก่อนถึงตัวเมืองปายเมื่อมาจากแยกแม่มาลัยปายโดยเข้าซอยทางไปแผ่นดินแยกราว 6-7 กิโลเมตร(เลยแผ่นดินแยกและน้ำตกแพมบก)ไป จากนั้นไปจอดรถที่บ้านแพมบก แล้วใช้บริการรถของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ค่าบริการรถยนต์จากบ้านแพมบก - ลานจอดรถดอยธงไปและกลับ1,600 บาท ติดต่อสอบถามได้ที่พี่เพชร โทร.08-2182-3993

วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2558

แสวงหาความสงบที่เกาะจำ

           นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มีโอกาสกลับมาเยือนเกาะจำ อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ หลังจากห่างหายไปถึง 4 ปีเต็ม  เกาะจำในวันนี้แทบจะไม่ต่างจากเมื่อ 4 ปีมากนัก มีเพียงถนนหนทางที่ดูดีมากกว่าเดิม 

           เกาะจำเป็นหนึ่งในหลายเกาะของจังหวัดกระบี่ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักของคนไทย แต่สำหรับชาวต่างชาติแล้วเป็นที่รับรู้โดยทั่วกันว่าคือสวรรค์ของคนรักทะเลที่ยังคงความบริสุทธิ์ ถ้าคุณต้องการพักผ่อนแบบสบายๆแบกเป้เดินทางที่นี่ใช่เลย ถึงแม้จะมีไฟฟ้า ถนนหนทางจะราดซีเมนต์ แต่ก็ไม่ได้หวือหวาหรูหราไฮโซจะออกแนวลุยๆสักเล็กน้อย ซึ่งคนที่แสวงหาธรรมชาติแบบไม่ค่อยได้ปรุงแต่งเมื่อมาสัมผัสเกาะจำรับรองได้ว่าหลงรักอย่างแน่นอน  40 นาทีจากท่าเรือแหลมกรวดอำเภอเหนือคลองจังหวัดกระบี่ บนเรือโดยสารแบบเรือหางยาวลำใหญ่ ค่าเรือโดยสารเพียงคนละ 50 บาทเท่านั้นคุณก็จะมาถึงท่าเรือมูตูท่าเรือหลักของเกาะจำ บังกะโล รีสอร์ตมีให้เลือกมากพอสมควรมีราคาหลักร้อยยันหลักพันไปสุดที่หลักหมื่นเลือกก่อนที่จะเดินทางมาถึงเพราะไม่อย่างนั้นคุณอาจไม่มีที่พักเมื่อมาถึงเกาะจำ


เกาะจำมีแนวชายหาดยาวเหยียดตลอดทางทิศตะวันตกถึงแม้หาดทรายจะไม่ขาวเหมือนเกาะพีพีแต่น้ำทะเลนั้นใสสะอาดชายหาดลาดยาวเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัยที่สำคัญนั่งชมอาทิตย์ลับขอบฟ้าได้จากที่พักไม่ต้องไปดูที่ไหนเพราะทุกที่วิวใกล้เคียงกันหมด  เกาะจำเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ใหญ่กว่าเกาะศรีบอยาที่อยู่ใกล้ๆ มีถนนสายหลักพาดผ่านเกาะตั้งแต่ทิศเหนือไปจรดทิศใต้จากบ้านเกาะปูทางทิศเหนือไปถึงบ้านเกาะจำที่อยู่ทางทิศใต้โดยสองฟากถนนจะมีทางแยกย่อยเข้าสู่ชายหาดและสวนยางพาราของชาวเกาะจำ ดังนั้นการขับรถเที่ยวที่นี่จึงง่ายไม่หลงแน่นอน คนเกาะจำเป็นกันเองนิสัยดี อัธยาศัยเยี่ยมทักทายชวนคุยได้ตลอดนี่คือเสน่ห์ของเกาะที่ยังไม่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำติดอันดับทั้งหลาย ภาพที่ทำให้ผมประทับใจคือเช้าวันหนึ่งขณะยืนรอถ่ายภาพชาวประมงกำลังแกะปลาจากอวน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสองสามีภรรยาอุ้มลูกตัวน้อยมาเดินเล่นแวะเข้าไปทักทายส่งภาษามือ ชาวบ้านขออุ้มคุณแม่ก็ยื่นลูกให้ชาวบ้านอุ้มพูดคุยด้วยภาษากายกันอย่างสนุกสนาน ใบหน้าเปื้อนยิ้มทุกคนมิตรภาพงอกงาม หาดทรายเป็นของเด็กๆน้ำใสๆคือความเย้ายวนชวนให้ไปแหวกว่ายทะเลช่างมีมนต์เสน่ห์เสมอ



ช่วงสายยันบ่ายคุณอาจขับรถตะลอนเที่ยวซอกแซกไปตามที่ต่างๆไปหมู่บ้านเกาะจำ บ้านเกาะปู แต่ยามเย็นขอแนะนำว่ากลับที่พัก(ที่อยู่ทางทิศตะวันตก) อาบน้ำแต่งตัวสบายๆแล้วมานั่งดินเนอร์ชมบรรยากาศยามอาทิตย์ลับขอบฟ้ามองดูเส้นแสงสีส้ม คือบรรยากาศที่คุณไม่ควรพลาดในการมาพักผ่อนที่เกาะจำ